ป่าภูเขียว ชัยภูมิ
ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
เป็นผืนป่าแห่งเดียวของจังหวัดนี้ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด
และเป็นป่าอีกผืนหนึ่งมีความสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และสัตว์ป่านานาชนิดในประเทศไทย
อีกทั้งความสมบูรณ์ของแหล่งต้นน้ำลำธาร
จึงถือว่าเป็นมรดกที่ล้ำค่าที่ตกทอดมาถึงในยุคปัจจุบันนี้
จากประวัติในอดีตของป่าภูเขียวที่ผ่านมาเมื่อหลายสิบปีนั้น
ป่าภูเขียวถูกบุกรุกอย่างหนัก
จึงชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเห็นความสำคัญของป่าผืนนี้
จึงพยายามทุกวิถีทางให้ป่าผืนนี้คงอยู่ให้ได้
มิฉะนั้นผืนป่าบนยอดภูเขียวแห่งนี้คงจะเป็นชมชนหมู่บ้าน
ผืนป่าคงราบโล่ง สูญสิ้นไปทุกอย่างที่เป็นป่า
สภาพของภูเขียวมีลักษณะคล้ายกับภูกระดึงหรือภูหลวง
ดูตามแผนที่แล้วมีรูปภูเขาเป็นวงกลมกว้างเหมือนปล่องภูเขาไฟ
เป็นหน้าผาเกือบรอบด้าน
แต่ตามระหว่างแนวหน้าผาสูงนั้นก็มีช่องเขาสำหรับใช้เดินลงและเดินขึ้นของสัตว์ป่า
และยังเป็นทางเดินป่าสำหรับล่าสัตว์ของพรานไพรอีกด้วย
หรือสัตว์ป่าตัวไหนลงจากภูเขาไปหากินด้านล่างหรือที่เชิงเขา
โอกาสที่จะรอดกลับขึ้นมาก็คงจะยาก
เพราะทั่วป่ายังพบปลอกปืนลูกซองตกอยู่ทั่วไป
เส้นทางรถยนต์มีสำหรับเจ้าหน้าที่ ทางด้านทิศตะวันออกของภูเขียว
จากที่ทำการฯมาทางบึงแปน
บางช่วงตัดผ่านกับเชิงผาไปยังหน่วยป่าไม้ที่อยู่เลยไปทางภูคิ้ง
สภาพบนยอดภูเขียวเป็นพื้นที่ราบ ส่วนภูเขามีห่าง ๆ ไม่สูงนัก
เพราะภูเขาอยู่บนที่สูงอยู่แล้ว ในป่าจะมีบึงหรือโป่งอยู่ทั่วไป
ลำห้วยก็มีหลายสาย เช่น ลำสะพุง เป็นลำห้วยที่ใหญ่สุด
ลำสะพุงน้อย ห้วยแหลป่าเตย ห้วยกุ่มน้อย เป็นต้น
ลำห้วยในป่าจะมีน้ำขังตลอดทั้งปี บางช่วงน้ำลึกท่วมหัว
น้ำเป็นสีน้ำชาเพราะใบไม้และดินโคลนที่หมักทับถมกัน
จึงมีกุ้งฝอยอยู่ชุกชุม
การเดินทางเข้าไปท่องไพรในใจกลางป่าภูเขียวนั้น
ทางที่สะดวกสบายที่สุดก็คือเริ่มต้นที่ทำการฯ
เพราะไม่ต้องปีนเขาขึ้นมายังยอดภูเขียว
การเดินในป่านั้นก็ต้องอาศัยทางด่านของช้างป่าที่เดินหากินไปทั่วป่า
บางช่วงจะพบทุ่งกว้าง พื้นที่ราบโล่ง โป่งขนาดใหญ่
หรืออาจจะพบป่าไผ่ป่าเฟินที่สูงท่วมหัว
ตลอดทางมีโอกาสได้พบเห็นสัตว์ป่าแทบทุกชนิด
ต้นไม้ก็สูงใหญ่เป็นดงน่าตื่นตาตื่นใจ
จะเดินออกไปทางทิศไหนหรือที่ไหนก็แล้วแต่จุดมุ่งหมายของแต่ละบุคคล
แต่ถ้าจะไปทางผืนป่าทิศตะวันตกนั้นเป็นป่ารก
ในด้านทิศตะวันตกซึ่งติดผืนป่าเขตจังหวัดเพชรบูรณ์
ของเขตอุทยานแห่งชาติตาดหมอก เลยเขาเทวดาลงมาทางทิศใต้เป็นป่ารก
แล้วจะลาดลงเขามาเป็นลำชี
มาโผล่ที่ชีดั้นซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขียว
แต่ถ้าจะไปตาดหมอกก็ต้องไปทางผาเทวดา
ถ้ามุ่งมาทางทิศมาทิศใต้ก็จะมาออกที่ลำสะพุงไหลออกมายังหมู่บ้าน
ถ้าเดินมาทางทิศตะวันออกจะพบกับทางรถยนต์ แล้วมาออกที่หน่วยฯ
ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาชมผาภูคิ้ง
การเดินในป่าแห่งนี้จะเดินตามลำห้วยตลอดเวลาไม่ได้
เพราะลำห้วยคดเคี้ยวไปมาและรก
ต้องเดินตามทางด่านมุ่งตัดทางทิศใดทิศหนึ่ง
เข็มทิศจึงมีความสำคัญมากกับการเดินทาง
ผืนป่าที่กว้างใหญ่ขวางไพศาลของภูเขียวแห่งนี้
น่าจะเดินเที่ยวแบบเดินรอบภูเขียวเป็นวงกลม
คงจะได้พบกับภูผาหลายแห่ง
รวมทั้งสัตว์ป่าก็ยังได้มีโอกาสให้พบเห็น
และการจะเดินทางท่องเที่ยวให้ทั่วผืนป่าภูเขียวในครั้งเดียวคงจะทำได้ยาก
หรือไม่ก็คงใช้เวลานับสิบวัน
แต่การเข้าไปสัมผัสป่านั้นถึงจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของป่า
ก็ทำให้ผู้ที่เข้าไปนั้นได้พบกับความสุขตนตามที่หวังเอาไว้
มิใช่ว่าต้องตรวจดูทุกแห่งของผืนป่า
ความเป็นป่าของภูเขียวแห่งนี้จึงสมควรยิ่งนักที่จะรักษาเอาไว้
อย่าให้เหลือเอาไว้เป็นแต่ตำนานที่เล่าขานกันมา เหมือนอย่างกระซู่
๒ ตัวในป่าแห่งนี้ เพราะมันไม่สามารถเรียกหามันกลับขึ้นมาอีกได้
ป่าที่ปลูกทดแทนป่าไม้เดิมก็ไม่เหมือนป่าธรรมชาติเดิม ๆ
ของมันแน่นอนในทุก ๆ ด้าน
|